ความรู้ที่ท่านอาจยังไม่รู้
ท่าน ว.วชิรเมธี
1. รู้รอบตัวมากมาย แต่ไม่รู้ดีรู้ชั่ว ก็เสื่อม
2. รู้เว้นงู เว้นเสือ เว้นมีด เว้นปืน แต่ไม่รู้เว้นอบายมุข ก็เสื่อม
3. รู้ภาษาต่างประเทศแต่ไม่รู้คุณค่าภาษาไทย ก็เสื่อม
4. รู้ตอบคำถามแต่ไม่รู้ตอบคุณแผ่นดิน ก็เสื่อม
5. รู้ที่กินที่เที่ยว แต่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ก็เสื่อม
6. รู้วัน เดือน ปีเกิด แต่ไม่รู้กาลเทศะ ก็เสื่อม
7. รู้พยากรณ์อากาศ แต่ไม่รู้ว่าชีวิตมีขึ้นมีลง ก็เสื่อม
8. รู้จักรวาลวิทยานภากาศ แต่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ก็เสื่อม
9. รู้จักคนมากมายหลายวงการ แต่ไม่รู้จักตนเอง ก็เสื่อม
10. รู้จักบริหารคน บริหารงาน แต่ไม่รู้จักวิธีบริหารใจ ก็เสื่อม
11. รู้จักวิธีหาเงินมากมาย แต่ไม่รู้วิธีบริหารเงิน ก็เสื่อม
12. รู้จักสร้างตึกสูงนับร้อยชั้น แต่ไม่รู้วิธีฝึกใจให้สูง ก็เสื่อม
13. รู้จักโกรธ แต่ไม่รู้จักให้อภัย ก็เสื่อม
14. รู้จักกติกามารยาท แต่ไม่รู้จักกฏแห่งกรรม ก็เสื่อม
15. รู้จักสวมนาฬิกาแพงๆ แต่ไม่รู้จักคุณค่าของเวลา ก็เสื่อม
16. รู้จักการเข้าสังคม แต่ไม่รู้จักการเข้าหาสังฆะ ก็เสื่อม
17. รู้เรียนเอาปริญญาสูงๆ แต่ไม่รู้จักยกพฤติกรรมให้สูง ก็เสื่อม
18. รู้ที่จะมีลูก แต่ไม่รู้จักเลี้ยงลูก ก็เสื่อม
19. รู้ที่จะรัก แต่ไม่รู้จักรับผิดชอบ ก็เสื่อม
20. รู้ที่จะดู แต่ไม่รู้ที่จักเห็น ก็เสื่อม
21. รู้ที่จะนับถือ แต่ไม่รู้ที่จะนับถืออย่างไร ก็เสื่อม
22. รู้ที่จะพูด แต่ไม่รู้จักศิลปะการพูด ก็เสื่อม
23. รู้ที่จะสวมหัวโขน แต่ไม่รู้ที่จะถอด ก็เสื่อม
24. รู้ว่าวันหนึ่งจะต้องตาย แต่ไม่รู้วิธีเตรียมตัวตาย ก็เสื่อม
25. รู้คุณของเงินทอง แต่ไม่รู้คุณพ่อคุณแม่ ก็เสื่อม
วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554
คุณค่าของคน
คุณค่าของคน
หัดคิดแต่ด้านบวก...แล้วจะรู้ว่ามีแต่สิ่งที่เป็นไปได้
หัดฝัน...แล้วจะรู้ว่าโลกนี้น่าอยู่
หัดพูดแต่ด้านบวก...แล้วะรู้ว่ามีคนอีกมากมายที่รักเรา
หัดยิ้ม...แล้วจะรู้ว่าเราคือคนที่น่ารัก
หัดฟาดฟันกับอุปสรรค...แล้วจะรู้ว่าเราคือคนที่เข้มแข็ง
ลองทน...แล้วจะรู้ว่าเรามีความอดทนยิ่งกว่าใคร
ลองออกกำลังกายทุกวัน...แล้วจะรู้ว่าเราคือมนุษย์เจ้าพลังคนหนึ่ง
ลองคิดเอาชนะ...แล้วจะรู้ว่าเราสามารถเอาชนะตัวเองได้ไม่ยาก
ลองคิดให้ใหญ่...แล้วจะรู้ว่าเรามีความสามารถอย่างน่าแปลกใจ
จะว่าไปแล้วคุณค่าของคนเมื่อเปรียบเทียบกับคุณค่าของเงิน
จะต่างกันตรงที่คุณค่าของเงินมีคนเป็นผู้กำหนด
หัดคิดแต่ด้านบวก...แล้วจะรู้ว่ามีแต่สิ่งที่เป็นไปได้
หัดฝัน...แล้วจะรู้ว่าโลกนี้น่าอยู่
หัดพูดแต่ด้านบวก...แล้วะรู้ว่ามีคนอีกมากมายที่รักเรา
หัดยิ้ม...แล้วจะรู้ว่าเราคือคนที่น่ารัก
หัดฟาดฟันกับอุปสรรค...แล้วจะรู้ว่าเราคือคนที่เข้มแข็ง
ลองทน...แล้วจะรู้ว่าเรามีความอดทนยิ่งกว่าใคร
ลองออกกำลังกายทุกวัน...แล้วจะรู้ว่าเราคือมนุษย์เจ้าพลังคนหนึ่ง
ลองคิดเอาชนะ...แล้วจะรู้ว่าเราสามารถเอาชนะตัวเองได้ไม่ยาก
ลองคิดให้ใหญ่...แล้วจะรู้ว่าเรามีความสามารถอย่างน่าแปลกใจ
จะว่าไปแล้วคุณค่าของคนเมื่อเปรียบเทียบกับคุณค่าของเงิน
จะต่างกันตรงที่คุณค่าของเงินมีคนเป็นผู้กำหนด
ซึ่งต่างก็มีคุณค่าแตกต่างกันไปตามตัวเลข ขนาดสีสันของธนบัตร
แต่เราไม่สามารถที่จะวัดและแยกแยะคุณค่าของคนในแต่ละคน
ให้เหมือนที่คนเป็นผู้กำหนดคุณค่าของแบงก์ได้
เพราะถ้าจะให้ต่างคนต่างประเมินคุณค่าของตัวเอง
ความลำเอียงในการเข้าข้างตัวเองย่อมบังเกิดขึ้น ความไม่แน่นอนก็จะตามมา
เพียงแต่ว่า ถ้าคุณเป็นคนที่มีคุณค่ามากพอในตัวเองแล้ว
ก็ยังคงมีคนที่มีความจริงใจและยังคงต้องการที่จะคบหาสมาคมกับคุณ
ไม่ว่าในบางครั้งที่คุณอาจจะต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าคุณค่า
ความลำเอียงในการเข้าข้างตัวเองย่อมบังเกิดขึ้น ความไม่แน่นอนก็จะตามมา
เพียงแต่ว่า ถ้าคุณเป็นคนที่มีคุณค่ามากพอในตัวเองแล้ว
ก็ยังคงมีคนที่มีความจริงใจและยังคงต้องการที่จะคบหาสมาคมกับคุณ
ไม่ว่าในบางครั้งที่คุณอาจจะต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าคุณค่า
ใน ตัวเองลดลง เหมือนถูกทิ้ง ถูกทำให้สกปรกและถูกเหยียบย่ำ ก็ตามที
แต่ไม่ว่าอะไรที่ได้เกิดขึ้นหรืออะไรที่จะเกิดขึ้น คุณไม่เคยสูญเสียคุณค่าของคุณ
เพราะยังคงเป็นคนพิเศษของคนที่จริงใจกับคุณเสมอไป โดยมีข้อคิดสุดท้ายที่เป็นตัวย้ำจำคือ
อย่านำความผิดหวังของเมื่อวาน มาบดบังความฝัน ในวันพรุ่งนี้
แต่ไม่ว่าอะไรที่ได้เกิดขึ้นหรืออะไรที่จะเกิดขึ้น คุณไม่เคยสูญเสียคุณค่าของคุณ
เพราะยังคงเป็นคนพิเศษของคนที่จริงใจกับคุณเสมอไป โดยมีข้อคิดสุดท้ายที่เป็นตัวย้ำจำคือ
อย่านำความผิดหวังของเมื่อวาน มาบดบังความฝัน ในวันพรุ่งนี้
วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554
คำคมนักบริหาร
คำคม สำหรับผู้บริหาร
* เกียรติยศย่อมเกิดจากการกระทำที่สุจริต
* ถ้าคุณหัวเสีย คุณจะเสียหัว
* อย่าไล่สุนัขให้จนตรอก อย่าต้อนคนให้จนมุม
* อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย
* ถ้าคุณคิดจะเป็นใหญ่ คุณก็จะได้เป็นใหญ่ ถ้าคุณคิดอยากเป็นอะไร คุณก็จะได้เป็นสิ่งนั้น
* เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
* นกทำรังให้ดูไม้ ข้าเลือกนายให้ดูน้ำใจ
* ผู้ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น
* จริงคือลวง ลวงคือจริง ถ้าคุณคิดว่าข้าศึกมีทางเลือกเพียง 2 ทาง จงแน่ใจได้ว่าเขาจะเลือกทางที่ 3
* ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่มี
* มังกรถ้าไร้หัว หางก็ตีกันเอง ถ้าคานบนเอน คานล่างก็เบี้ยว ถ้าเสาเอกเฉียง เสาโทก็เฉ
* คนมองไม่เห็นการณ์ไกล ภัยก็จะมาถึงตัว คนไม่รู้จักตัดไฟ ภัยก็จะน่ากลัว
* ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวายังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องให้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี
* ไม้คดใช้ทำขอเหล็กงอใช้ทำเคียว แต่ คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย
* เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว เดินหมากรุกยังต้องคิด เดินหมากชีวิต จะไม่คิดได้อย่างไร
* เมื่อเสียหลักก็ต้องหลบอย่างฉลาด เมื่อพลั้งพลาดต้องรู้หลึกใส่ปลีกหาง ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆทำ ค่อยคลำทาง จึงจะย่างสู่จุดหมายเมื่อปลายมือ
* ปลาใหญ่มักตายน้ำตื้น
* เกียรติยศย่อมเกิดจากการกระทำที่สุจริต
* ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่มี
* เมื่อใครสักคนหนึ่ง ทำผิด ท่านอย่าเพิ่งตำหนิหรือต่อว่าเขา เพราะถ้าท่านเป็นเขาและตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นเดียว กับเขา ท่านอาจจะตัดสินใจทำเช่นเดียวกับเขาก็ได้
* การบริหารคือการทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยมือผู้อื่น
* ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสารมารถของตนอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่นอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่นอย่างเต็มที่
* อ่านคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น
* เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ใช่ หรือ อาจจะ" เขามีความหมายว่า "อาจจะ" เมื่อนักการฑูตพูดว่า "อาจจะ" เขามีความหมายว่า "ไม่" เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ไม่" เขาไม่ใช่นักการฑูต เพราะนักการฑูตที่ดีจะไม่ปฏิเสธใคร
* เมื่อ สุภาพสตรีพูดว่า "ไม่" หล่อนมีความหมายว่า "อาจจะ" เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "อาจจะ" หล่อนมีความหมายว่า "ใช่ หรือ ได้" เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ใช่ หรือ ได้" หล่อนไม่ใช่สุภาพสตรี
* คิดทำการใหญ่ อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย
* ตา สามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน คนส่วนใหญ่ใส่ใจกับผลได้ระยะสั้นเท่านั้น แต่คนฉลาดอย่างแท้จริงจะมองไปยังอนาคต
* อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย
* ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวายังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องให้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี
* ตัดไผ่อย่าไว้หน่อ ฆ่าพ่ออย่าเหลือลูก คิดทำการใหญ่ ใจคอต้อง...มหาญ
* ข้าพเจ้ายอมทรยศต่อคนทั้งโลก ดีกว่าให้คนในโลกทรยศต่อข้าพเจ้า
* เป็นแม่ทัพแล้วไม่กล้าตัดหัวคน เป็นแม่ทัพที่ดีไม่ได้
* คนฉลาดปราดเปรื่อง เขานั่งนิ่งสงวนคม
* ไม่มีใครเลี้ยงอาหารใครเปล่า ๆ โดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน
* ศัตรูที่ร้ายเหลือ ไม่เท่าเกลือเป็นหนอน
* ความรู้ คือ อำนาจ
* นั่งบนภู ดูเสือกัดกัน
* เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน ฉะนั้นจงอย่าประมาท
*
* ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน
*
* ดวงอาทิตย์ทำให้ทุกสิ่งกระจ่างชัด แต่ เรายังต้องทำความเข้าใจในส่วนที่มืด ซึ่งยังคงดำรงอยู่
* เกียรติยศย่อมเกิดจากการกระทำที่สุจริต
* ถ้าคุณหัวเสีย คุณจะเสียหัว
* อย่าไล่สุนัขให้จนตรอก อย่าต้อนคนให้จนมุม
* อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย
* ถ้าคุณคิดจะเป็นใหญ่ คุณก็จะได้เป็นใหญ่ ถ้าคุณคิดอยากเป็นอะไร คุณก็จะได้เป็นสิ่งนั้น
* เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
* นกทำรังให้ดูไม้ ข้าเลือกนายให้ดูน้ำใจ
* ผู้ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น
* จริงคือลวง ลวงคือจริง ถ้าคุณคิดว่าข้าศึกมีทางเลือกเพียง 2 ทาง จงแน่ใจได้ว่าเขาจะเลือกทางที่ 3
* ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่มี
* มังกรถ้าไร้หัว หางก็ตีกันเอง ถ้าคานบนเอน คานล่างก็เบี้ยว ถ้าเสาเอกเฉียง เสาโทก็เฉ
* คนมองไม่เห็นการณ์ไกล ภัยก็จะมาถึงตัว คนไม่รู้จักตัดไฟ ภัยก็จะน่ากลัว
* ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวายังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องให้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี
* ไม้คดใช้ทำขอเหล็กงอใช้ทำเคียว แต่ คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย
* เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว เดินหมากรุกยังต้องคิด เดินหมากชีวิต จะไม่คิดได้อย่างไร
* เมื่อเสียหลักก็ต้องหลบอย่างฉลาด เมื่อพลั้งพลาดต้องรู้หลึกใส่ปลีกหาง ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆทำ ค่อยคลำทาง จึงจะย่างสู่จุดหมายเมื่อปลายมือ
* ปลาใหญ่มักตายน้ำตื้น
* เกียรติยศย่อมเกิดจากการกระทำที่สุจริต
* ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่มี
* เมื่อใครสักคนหนึ่ง ทำผิด ท่านอย่าเพิ่งตำหนิหรือต่อว่าเขา เพราะถ้าท่านเป็นเขาและตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นเดียว กับเขา ท่านอาจจะตัดสินใจทำเช่นเดียวกับเขาก็ได้
* การบริหารคือการทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยมือผู้อื่น
* ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสารมารถของตนอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่นอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่นอย่างเต็มที่
* อ่านคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น
* เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ใช่ หรือ อาจจะ" เขามีความหมายว่า "อาจจะ" เมื่อนักการฑูตพูดว่า "อาจจะ" เขามีความหมายว่า "ไม่" เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ไม่" เขาไม่ใช่นักการฑูต เพราะนักการฑูตที่ดีจะไม่ปฏิเสธใคร
* เมื่อ สุภาพสตรีพูดว่า "ไม่" หล่อนมีความหมายว่า "อาจจะ" เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "อาจจะ" หล่อนมีความหมายว่า "ใช่ หรือ ได้" เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ใช่ หรือ ได้" หล่อนไม่ใช่สุภาพสตรี
* คิดทำการใหญ่ อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย
* ตา สามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน คนส่วนใหญ่ใส่ใจกับผลได้ระยะสั้นเท่านั้น แต่คนฉลาดอย่างแท้จริงจะมองไปยังอนาคต
* อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย
* ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวายังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องให้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี
* ตัดไผ่อย่าไว้หน่อ ฆ่าพ่ออย่าเหลือลูก คิดทำการใหญ่ ใจคอต้อง...มหาญ
* ข้าพเจ้ายอมทรยศต่อคนทั้งโลก ดีกว่าให้คนในโลกทรยศต่อข้าพเจ้า
* เป็นแม่ทัพแล้วไม่กล้าตัดหัวคน เป็นแม่ทัพที่ดีไม่ได้
* คนฉลาดปราดเปรื่อง เขานั่งนิ่งสงวนคม
* ไม่มีใครเลี้ยงอาหารใครเปล่า ๆ โดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน
* ศัตรูที่ร้ายเหลือ ไม่เท่าเกลือเป็นหนอน
* ความรู้ คือ อำนาจ
* นั่งบนภู ดูเสือกัดกัน
* เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน ฉะนั้นจงอย่าประมาท
*
* ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน
*
* ดวงอาทิตย์ทำให้ทุกสิ่งกระจ่างชัด แต่ เรายังต้องทำความเข้าใจในส่วนที่มืด ซึ่งยังคงดำรงอยู่
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ข้อคิดที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ
ข้อคิดดี ๆ ที่จะนำชีวิตไปสู่ความสำเร็จ
คนเราทุกคนก็หวังที่จะประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้นแต่เส้นทางที่จะประสบความสำเร็จนั้นก็แตกต่างกันไปตามแนวทางและแนวความคิด
ของแต่ละบุคคล และเชื่อว่าคนที่ประสบความสำเร็จทุก ๆ คน
จะต้องมีข้อคิดอะไรบางอย่างที่เป็นตัวกระตุ้นเตือนใจอย่างแน่นอน
- ความมหัศจรรย์หลายอย่างที่เกิดขึ้นในโลกนี้...
- เริ่มต้นมาจากฝันกลางวันของคนบางคนนี้แหละ...
- หนังสือดีเพียงเล่มเดียว....
- สามารถเปลียนชีวิตคนได้....
- ความคิดดีๆ...เพียงความคิดเดียว...
- สามารถสร้างแรงบันดาลใจ
- ให้เด็กวัด..กำพร้า...อดอยากยากจนขนาดต้องแย่งหมากิน...
- ทะยานสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้....
- เรา...ไม่สามารถรู้ได้ว่า...เราจะบินได้สูงแค่ไหน...
- จนกว่าเราจะ...กางปีก...แล้วบิน...
- ตราบใดที่คุณยังไม่ลงมือทำ...
- อย่าเชื่อว่าคุณทำไม่ได้...
- จากประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทุกคน...
- มีหัวใจของความสำเร็จเหมือนกัน 2 ประการคือ....
- เขา...ชนะใจตนเอง....
- เขา...ให้ความสำคัญเรื่องวินัย...เป็นอันดับหนึ่ง....
ชัยชนะ..เป็นของคนที่....อึดที่สุด...
- ความสำเร็จ...เกิดจาก...
- อัจฉริยะ1 ส่วน
- ที่เหลือ 9 ส่วน...เกิดจาก....
- หยาดเหงื่อ...แรงงาน...และน้ำตาล้วนๆ...
- ความยากลำบาก...เป็นมหาลัยชั้นสูง...
- ในการฝึก...ยอดคน
- ความสำเร็จ...เกิดจากความยากลำบาก...
- ไม่มีความสำเร็จใด..ตกมาจากฟากฟ้า...
- ไม่มีชัยชนะใด...ได้มาโดยไม่ต้องต่อสู้...
- ไม่มีความสำเร็จใด...ได้มา...โดยไม่ต้องลงแรง
- ความสำเร็จ...เกิดจาก..การลงมือทำ...
- ไม่ใช่แรงอธิษฐาน...
- ความสำเร็จ...มันอยู่ไกล..เกินไปถึง....
- กับคนซึ่ง...นั่งหงอย...และคอยหา...
- ความสำเร็จ...จะมาอยู่...แค่ปลายตา...
- กับคนที่...คิดว่า...ต้องพยายาม...
- เกิดในที่...ที่ดี...นั้นดีแน่...
- เกิดในที่...ที่แย่...ก็ดีได้...
- เกิดที่ดี...แล้วแย่...มีถมไป....
- เกิดที่ไหน...ก็ดีได้...ถ้าใฝ่ดี...
- ผลลัพธ์แห่ง..ความสำเร็จ....
- ยิ่งใหญ่เกินกว่า...ที่ตามองเห็น....
- คนที่จะประสบความสำเร็จ....
- ต้องมีเป้าหมายในชีวิต...
- ผู้ที่ปฎิเสธ...ไม่ทำตามความฝัน....
- จะไม่มีทางประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้...
- อดีต...ไม่สำคัญ...ว่าเราเคยเป็นใคร...
- แต่สิ่งสำคัญ..มันอยู่ที่ว่า...
- วันนี้...เราจะเป็นใคร...?
- และวันพรุ่งนี้..เราต้องการความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน....
- คนที่ชอบทำงานง่ายๆๆ...
- จะเป็นได้แค่ลูกจ๊อกเขา...ตลอดชีวิต...
- ผลงานล้ำค่า...ที่อุบัติขึ้นในโลกนี้...
- ล้วนเกิดจากมือ...ของคนที่ชอบทำงานหนัก...
- คนที่ประสบความสำเร็จ...
- ไม่ใช่แค่เป็นนักฝัน...
- แต่เขาเริ่มด้วยการ...ลงมือทำ...
- เอาแต่พูด...เอาแต่ท่องทฤษฎี..ไม่ลงมือปฏิบัติ...
- ไม่มีทาง...ประสบความสำเร็จ
- ความสำเร็จเริ่มต้นเมื่อ...
- คุณเชื่อว่า...คุณทำได้...
- จุดอ่อนของคนที่...ไม่ประสบความสำเร็จคือ...
- การยอมแพ้...
- คนที่ประสบความสำเร็จ
- พยายามอีกครั้ง...เสมอ...
- ความรับผิดชอบ...ทำให้...งานออกมาดี...
- ความรัก...ทำให้...งานออกมา...สวย...
- เป้าหมาย..ทำให้...สำเร็จ...โดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย...
- สาเหตุที่ทำให้คุณเห็นว่า...
- อุปสรรค..เป็นเรื่องน่ากลัว...
- เพราะ...คุณละสายตา...จากเป้าหมาย...
วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554
L D ความบกพร่องของการเรียนรู้
โรค LD หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า LD กันมาบ้างแล้ว LD หรือ Learning Disabilities เป็นกลุ่มที่มีความบกพร่องในทักษะการเรียนรู้เฉพาะด้าน ที่แสดงออกมาในรูปของปัญหาการอ่านหนังสือ การเขียนหนังสือ การสะกดคำหรือการคำนวณ ทำให้เด็กมีผลการเรียนต่ำกว่าระดับเชาว์ปัญญา ซึ่งไม่ได้เกิดจากอวัยวะพิการ ภาวะปัญญาอ่อน ปัญหาทางอารมณ์หรือการขาดโอกาสในการเรียนรู้ แต่เป็นผลโดยตรงที่มาจากสมองทำงานบกพร่องไป
อาการแสดง แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
1. มีปัญหาในการอ่านหนังสือ อาจจะอ่านไม่ออกหรืออ่านได้บ้างแต่ความสามารถในการอ่านต่ำกว่าเด็กที่ฉลาดเท่ากันอย่างน้อย 2 ชั้นเรียน สะกดตัวไม่ถูก อ่านช้า ตกหล่น อ่านเพิ่มคำ อ่านสลับตัวพยัญชนะ ผสมคำไม่ได้ แยกคำไม่ถูก อ่านแล้วจับใจความไม่ได้
2. มีปัญหาในการเขียนหนังสือ อาจจะเขียนหนังสือไม่ได้ทั้งที่รู้ว่าจะเขียนอะไร เขียนแล้วเอาพยัญชนะมารวมๆกันแต่อ่านไม่ได้ เขียนพยัญชนะสลับกัน ขนาดของตัวอักษรไม่เท่ากัน เขียนไม่ตรงบรรทัด ไม่เว้นช่องไฟ
3. มีปัญหาในการคำนวณ อาจจะคำนวณไม่ได้เลยหรือทำได้แต่สับสนกับตัวเลข ไม่เข้าใจสัญลักษณ์ ไม่เข้าใจค่าของตัวเลข เขียนเลขสลับกัน ทำบวก ลบ คูณ หาร ไม่ได้ ยุ่งยากกับการตีโจทย์ปัญหา
จากความผิดปกติเหล่านี้ จะทำให้เด็กเรียนหนังสือได้ลำบาก ทั้งๆที่เด็กมีระดับเชาวน์ปัญญาปกติก็ตาม แต่ผลการเรียนไม่ดีและเด็กเองก็มองเห็นข้อบกพร่องของตัวเองที่แตกต่างจากเพื่อนและไม่สามารถเอาชนะข้อบกพร่องนี้ได้ ส่งผลทำให้เด็กมองภาพตัวเองไม่ดี รู้สึกว่ามีปมด้อย ล้มเหลว ยิ่งเรียนยิ่งทำไม่ได้ แต่เวลาฟังคนอื่นพูดจะรู้เรื่องดีและฉลาดในการซักถาม ยิ่งทำให้พ่อแม่ครูคาดหวังว่าเด็กดูรู้เรื่อง แต่ผลสอบที่ไม่ดีจะส่งผลทำให้ผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจดุ ว่า ตำหนิ เคี่ยวเข็ญ ทำให้เกิดปัญหาอารมณ์ (ซึมเศร้า หงุดหงิดง่าย วิตกกังวล) และปัญหาพฤติกรรม (ดื้อ ต่อต้าน ก้าวร้าว หนีเรียน) ตามมา
สาเหตุ มีหลักฐานว่าสาเหตุของโรคเกิดจากความบกพร่องในการทำงานของสมอง ถ่ายทอดการดำเนินโรคในครอบครัว ร้อยละ 20 ที่จะมีประวัติว่าคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดน้อย มีปัญหาขณะตั้งครรภ์หรือขณะคลอด เคยมีโรคติดเชื้อหรืออุบัติเหตุรุนแรงที่สมอง เป็นโรคลมชัก เป็นต้น
อุบัติการณ์ พบได้ร้อยละ 6 ในเด็กวัยเรียน ถึงแม้ว่าเป็นความผิดปกติที่ติดตัวมาแต่จะทราบต่อเมื่อสภาพแวดล้อมเริ่มกดดันให้แสดงความสามารถออกมา จึงเริ่มเห็นความผิดปกติชัดเจนที่ชั้นประถมปีที่ 1- 3
ความผิดปกติที่พบร่วมกับLD โรคสมาธิสั้น โรคกระตุก(Tic disorders) กลุ่มที่มีความล่าช้าในภาษาและการพูด
การให้ความช่วยเหลือ
1. ค้นหากลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคที่ชั้นอนุบาล โดยเฉพาะในกลุ่มที่ใช้มือไม่เก่ง งุ่มง่าม ซุกซน พูดช้าพูดไม่ชัด การทรงตัวไม่ดี สับสนในทิศทาง สับสนซ้าย-ขวา ฯลฯ เป็นกลุ่มที่ควรได้รับการฝึกทักษะแบบเตรียมความพร้อมในทุกด้านขึ้นมาพร้อมกับการฝึกเฉพาะด้านในส่วนที่มีปัญหา เช่น การใช้มือ การพูด การเคลื่อนไหวหรือการทรงตัว เป็นต้น
2. ทำงานร่วมกันระหว่างพ่อ แม่ ครู และแพทย์ ในการค้นหาสาเหตุของปัญหา ให้วินิจฉัยโรค
3. ความเข้าใจของพ่อแม่และครูในตัวโรค LDและข้อจำกัดในเด็ก จึงถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สุด เพราะจะทำให้เด็กได้รับความช่วยเหลือทางการศึกษาอย่างเหมาะสม ทำให้สามารถเรียนรู้ต่อไปได้ภายใต้ข้อจำกัดในความสามารถทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน
4. ปรับระบบการเรียนการสอนเพื่อให้เด็กสามารถเรียนรู้ต่อได้ โดยจัดทำแผนการเรียนเฉพาะตัว ( individual educational program ) และติดตามผลระยะยาว
4. ค้นหาจุดเด่นและข้อด้อย พัฒนาความสามารถในด้านต่างๆ เช่น กีฬา ดนตรี การทำกิจกรรม การช่วยเหลือตัวเอง ฯลฯ เพื่อเพิ่มความภาคภูมิใจในตัวเด็ก ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน ใช้เทคนิคการให้กำลังใจเป็นระยะ
5. บอกสิทธิ์ที่เด็กและครอบครัวควรได้รับ เนื่องจากโรค LD ถือว่าเป็นความพิการชนิดหนึ่งที่เด็กจะต้องได้รับความความช่วยเหลือทางการแพทย์และการศึกษาตามกฎหมาย โดยเด็กจะได้รับการวางแผนสร้างแบบการเรียนเฉพาะตัว ( individual educational program ) โดยจะต้องมีการปรับระบบการเรียนการสอนที่เน้นการฟัง การเห็น การลงมือปฏิบัติ มากกว่าจะเน้นการได้รับความรู้ผ่านการอ่านหนังสือ ใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยในการเรียนรู้ เช่น เทป วีดีโอ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้เด็กได้ติดตามการเรียนในห้องได้ทัน
การพยากรณ์โรค
เนื่องจาก LD เป็นความพิการติดตัว อาจพัฒนาความสามารถในการอ่าน เขียนหรือคำนวณขึ้นมาได้บ้างผ่านการฝึกฝนซ้ำๆ แต่อย่างไรก็ตามความสามารถของทักษะก็ยังต่ำกว่าความสามารถของเด็กที่มีระดับเชาวน์ปัญญาเท่ากันอย่างน้อย 2 ชั้นเรียน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะวัดความรู้ที่เด็กมีโดยใช้วิธีการเช่นเดียวกับเด็กปกติ คือ เด็กจะต้องอ่านโจทย์เอง เนื่องจากเด็กอ่านไม่ได้หรืออ่านได้บ้างแต่ไม่รู้เรื่อง ผลสอบจะไม่สามารถวัดความรู้ที่เด็กมีได้แน่นอน
เด็กส่วนใหญ่จะถูกกันออกจากระบบการศึกษาตั้งแต่แรก ทำให้ขาดโอกาสเรียนรู้ มองตัวเองว่าโง่ เป็นคนไม่ดี ไม่มีความสุข ก้าวร้าวในกรณีที่ถูกลงโทษบ่อยๆ ติดยาเสพติด กลายเป็นปัญหาสังคมได้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ทางการศึกษาละเลยมิให้ความช่วยเหลือโดยปรับระบบการเรียนการสอน และยังใช้มาตรฐานการเรียนการสอนเช่นเดียวกับเด็กปกติ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)