วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

นิสัย 10 อย่างที่ทำให้สมองพัง

นิสัย 10 อย่างที่ทำให้สมองพัง

1. ไม่ทานอาหารเช้า

หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหาร เช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ แต่นี้จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม

2. กินอาหารมากเกินไป

การกินมากเกินไปจะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น (เช่น เทพธิดาดิว เป็นต้น)

3. การสูบบุหรี่

เป็นสาเหตุให้เป็นโรคสมองฝ่อและเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์

4. ทานของหวานมากเกินไป

การกินของหวานมาก จะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาองสมอง

5. มลภาวะ

สมอง เป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกายการสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไป จะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อยส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง

6. การอดนอน

การนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อนการอดนอนเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์สมองตายได้

7. นอนคลุมโปง

การนอนคลุมโปง จะเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้นและลดออกซิเจนให้น้อยลงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง

8. ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย

การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วย จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงเหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว

9. ขาดการใช้ความคิด

การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมองการขาดการใช้ความคิดจะทำให้สมองฝ่อ

10. เป็นคนไม่ค่อยพูด

ทักษะทางการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง

ความหมายของ O.K


คนส่วนใหญ่
น้อย คนนักที่ไม่รู้จักคำว่า O.K. เรามักจะได้ยินคนพูดกันติดปาก
ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ

ไม่ว่าวัยใดก็ตาม แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า.. คำคำนี้มีที่มาอย่างไร ?
         
คำว่า O.K. มาจากคำเต็มว่า Oll Korrect
ซึ่ง ที่ถูกต้องคือ All Correct ( แปลว่า ถูกต้อง ) มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจจาก
พ่อค้าชาวอเมริกันคนหนึ่ง มีฐานะ ตำแหน่งหน้าที่การงานสูง แต่การศึกษาน้อย
ทุกครั้งที่เขาสั่งงานลงในใบสั่ง ถ้างานชิ้นใดถูกต้อง ตกลง และอนุมัติ เขาจะ
เขียนคำว่า Oll Korrect ลงในใบสั่งใบนั้นเสมอๆ ต่อมากิจการของพ่อค้าคนนี้
มีความเจริญก้าวหน้ามาก งานที่ติดต่อมาก็มีมากขึ้น ใบสั่งงานก็มีมากมายล้นโต๊ะ
การที่เขาจะต้องเขียนคำ Oll Korrect ลงในใบสั่งทุกใบทำให้ต้องใช้เวลามาก
เขาจึงย่อเหลือเพียงสั้นๆ คำ O.K. ซึ่งมีผล และความหมายเหมือนกัน
คำว่า "อนุมัติ" นั่นเอง และก็เลยมีการใช้กัน อย่างแพร่หลาย ทั้งภาษาพูด และภาษาเขียน
มากันจนปัจจุบันทั่วโลกทีเดียว.
ามหมายของ  O.K


คนส่วนใหญ่
น้อย คนนักที่ไม่รู้จักคำว่า O.K. เรามักจะได้ยินคนพูดกันติดปาก
ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ

ไม่ว่าวัยใดก็ตาม แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า.. คำคำนี้มีที่มาอย่างไร ?
         
คำว่า O.K. มาจากคำเต็มว่า Oll Korrect
ซึ่ง ที่ถูกต้องคือ All Correct ( แปลว่า ถูกต้อง ) มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจจาก
พ่อค้าชาวอเมริกันคนหนึ่ง มีฐานะ ตำแหน่งหน้าที่การงานสูง แต่การศึกษาน้อย
ทุกครั้งที่เขาสั่งงานลงในใบสั่ง ถ้างานชิ้นใดถูกต้อง ตกลง และอนุมัติ เขาจะ
เขียนคำว่า Oll Korrect ลงในใบสั่งใบนั้นเสมอๆ ต่อมากิจการของพ่อค้าคนนี้
มีความเจริญก้าวหน้ามาก งานที่ติดต่อมาก็มีมากขึ้น ใบสั่งงานก็มีมากมายล้นโต๊ะ
การที่เขาจะต้องเขียนคำ Oll Korrect ลงในใบสั่งทุกใบทำให้ต้องใช้เวลามาก
เขาจึงย่อเหลือเพียงสั้นๆ คำ O.K. ซึ่งมีผล และความหมายเหมือนกัน
คำว่า "อนุมัติ" นั่นเอง และก็เลยมีการใช้กัน อย่างแพร่หลาย ทั้งภาษาพูด และภาษาเขียน
มากันจนปัจจุบันทั่วโลกทีเดียว.